5 เรื่องเล่าเกี่ยวกับ tele-dentistry

1. การรักษาทางไกลคือการรักษาด้วยตนเอง (“DIY”)

การรักษาทางไกลคือการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้บริการทางทันตกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งหลายคนมักสับสน Tele-Orthodontics (การแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติเเบบทางไกล) กับการจัดฟันด้วยตนเอง (“DIY”) นั้นก็คือการจัดฟันโดยไม่ได้รับคำแนะนำหรือการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญตลอดการรักษา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะการอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์เเละผู้เชี่ยวชาญตลอดการรักษาคือเหตุผลที่ทำให้การรักษาทางไกลปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ คุณไม่ควรรู้สึกโดดเดี่ยวตลอดระยะเวลาการรักษา

2. เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่มีการทดสอบและมีความเสี่ยงสูง

แนวคิดของการใช้เทคโนโลยีเพื่อทดเเทนการเข้าพบแพทย์ได้มีมานานหลายทศวรรษแล้ว ปัญหาสุขภาพที่ไม่ร้ายแรงเช่น ไซนัส ได้ใช้การรักษาโดยการเข้าพบทันตเเพทย์ทางออนไลน์ ซึ่งได้มีการค้นพบว่าการรักษาเเบบทางไกลเเละการเข้าพบแพทย์โดยตรงมีความสำเร็จเท่าเทียมกัน แนวคิดนี้ค่อยๆได้รับการนิยมเเละโลกเเห่งทันตกรรมก็ได้เข้าร่วมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีนี้และประสบความสำเร็จอย่างมาก จากหลักฐานการรักษาทางการเเพทย์พบว่าการวินิจฉัยฟันผุโดยใช้ teledentistry นั้นมีความแม่นยำ(และเร็วกว่า!) การไปรักษาที่คลินิคโดยตรง และที่สำคัญ ทุกเคสจะต้องได้รับการตรวจสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมสำหรับการรักษาทางไกลเป็นขั้นตอนเเรก  ซึ่งเหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น

คำเเนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ก่อนจะเริ่มจัดฟันด้วยการรักษาเเบบทางไกล คุณควรเช็คว่าขั้นตอนเเรกคือการประเมินความเหมาะสมโดยทันตเเพทย์ที่มีใบอนุญาติ

3. การรักษาทางทันตกรรมจำเป็นต้องเอกซเรย์ฟันก่อน เพราะฉะนั้นการรักษาทางไกลไม่ปลอดภัยเพราะไม่มีการเอกซเรย์

ตามขั้นตอนของการจัดฟันทั่วไปนั้น คุณหมอจะต้องตรวจประวัติทางทันตกรรม รูปถ่ายฟัน รอยพิมพ์ฟัน และเอกซเรย์ฟันของคนไข้ก่อนจะให้เริ่มสวมใส่อุปกรณ์จัดฟัน ซึ่งขั้นตอนที่กล่าวมานี้สามารถทำได้โดยใช้เทคโนโลยีการรักษาทางไกล ยกเว้นการเอกซเรย์เพียงขั้นตอนเดียว ซึ่งการที่ไม่สามารถเอกซเรย์ดูเหมือนจะเป็นข้อเสียของ tele-orthodontics แต่แท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ช่วยกำหนดบทบาทของ tele-orthodontics ได้อย่างชัดเจน เช่น ในการจัดฟันเฉพาะฟันหน้านั้น British Orthodontic Society ระบุว่าไม่ควรใช้การเอกซเรย์ในกรณีนี้ เพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดีเเก่คนไข้ ดังนั้นในกรณีที่เคสไม่ซับซ้อนหรือต้องเคลื่อนฟันเพียงเล็กน้อย การรักษาเเบบ tele-orthodontics จึงเหมาะสมที่สุด

4. ฉันต้องเข้าพบทันตแพทย์ตัวต่อตัวเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของการรักษา

ความจำเป็นที่จะต้องเข้าพบทันตแพทย์ตัวต่อตัวนั้นขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละเคส โดยเคสที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการรักษาเเบบทางไกลก็จะสามารถติดตามความคืบหน้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนจากการเจอทันตแพทย์ตัวต่อตัวเป็นการอัปโหลดรูปถ่ายจากโทรศัพท์เเทน! บางท่านอาจจะชอบการพบเจอทันตแพทย์เเบบตัวต่อตัว เเต่ในความเป็นจริงเเล้วตอนเข้าพบทันตเเพทย์ ส่วนมากอาจจะใช้เวลาซัก 1-2 นาทีเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบ ก่อนที่ทันตแพทย์จะใช้เวลา 4-5 นาทีเพื่อตรวจฟันดูความคืบหน้าของการรักษาและตอบคำถามต่างๆที่คุณอาจมี อีกทั้งยังต้องนั่งรอคิวพบคุณหมอที่คลินิคเเละใช้เวลาการเดินทางอีกด้วย ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดสามารถทำได้ผ่านการรักษาทางไกล การเลือกรักษาเคสที่มีความซับซ้อนต่ำและมีความเสี่ยงต่ำจะช่วยให้ทันตแพทย์มีเวลาในการรักษาเคสที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่นเคสที่ต้องทำการเอกซเรย์ ต้องเข้าพบทันตเเพทย์เป็นประจำ หรือ ต้องใช้อุปกรณ์จัดฟันที่ซับซ้อนมากขึ้น การวิจัยเเละผลลัพธ์ของเคสที่ประสบความสำเร็จมามากกว่าแสนกว่าเคสเเสดงให้เห็นว่าการรักษาทางไกลปลอดภัยเเละจะอยู่กับเราไปอย่างต่อเนื่อง

5.การดูเเลจะลดลงหากทำการรักษาทางไกลเพราะฉันไม่ได้พบทันตแพทย์ตัวต่อตัวและมีราคาสูงกว่า

นี่คือหนึ่งในความเชื่อที่ผิดที่สุด! ในความเป็นจริงเเล้ว คุณภาพของการดูเเลภายใต้การรักษาทางไกลนั้นเทียบเท่าได้กับการเข้าพบทันตแพทย์ตัวต่อตัว เพราะทีมผู้ดูแลหรือทันตแพทย์สามารถนัดเวลาพูดคุยเเละให้คำปรึกษาเเก่คุณได้ หรือในกรณีฉุกเฉินคุณก็สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทันที เเละในส่วนของค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่แล้วการรักษาทางไกลจะถูกกว่า เพราะคุณจะสามารถลดทั้งเวลาเเละค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงลดเวลาเข้าพบทันตแพทย์ไปอีกด้วย ซึ่งคุณจะได้รับประโยชน์ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ในคุณภาพที่เท่าเทียมกับการเข้าพบทันตเเพทย์ตัวต่อตัว

selfie-hands-hold-aligner-retainer-case

จัดฟันใสกับเซลฟี่มีประโยชน์ต่อคุณอย่างไร?

มาดูกันว่าการดัดฟันใสให้ตรงสวยงามนั้นง่ายแค่ไหน

เว็บไซต์นี้มีการใช้คุกกี้เพื่อการปรับปรุงการใช้บริการออนไลน์ของคุณเพราะว่าความเป็นส่วนตัวของคุณคือสิ่งสำคัญของเรา เราจึงใช้คุกกี้เพื่อเก็บข้อมูลของคุณตามที่จำเป็น โปรดให้การอนุญาตหากคุณยอมรับ"เงื่อนไขความเป็นส่วนตัว"ของเซลฟี่